วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2551

พระกับวิญญาณสึนามิ ตอน... ห่วงของพ่อ


"ผมไม่นึกเลยว่าเมื่อ 10 วันก่อน พ่อจะมีความสุขเดินยิ้มแย้มแจ่มใสทักทายคนไปทั้งงาน เนื่องในงานบวชผมซึ่งเป็นลูกชายคนเเรก พ่อสุขใจและปลื้มใจมากที่ได้เห็นชายผ้าเหลืองของลูกชายที่พ่อรัก แต่ถัดมาอีกไม่กี่วัน เรื่องดีๆที่ยังไม่ทันจางหาย กลับกลายเป็นเรื่องร้ายที่ไม่เคยมีใครนึกมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นในเมืองไทย

คลื่นร้ายพรากพ่อผมไป เมื่อผมบวชได้เพียงอาทิตย์กว่าๆ พระบวชใหม่อย่างผม มีกิจนิมนต์ไปในงานมงคลหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ ผมแทบทำใจไม่ได้ เมื่อกิจนิมนต์ในคืนนี้คือการมาสวดศพพ่อผมเอง"

"ท่านทำใจเถอะครับ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องที่เรารทุกคนไม่มีทางหลุดพ้น" ผมปลอบใจ พระใจยุทธ พระบวชใหม่ขณะที่นั่งรถกลับมาจากสวดศพโยมพ่อของเขาที่บ้านบางสัก เพื่อที่จะกลับมาจำวัดที่วัดบางเนียง

คืนนี้ หลวงลุงนนท์เจ้าอาวาส และพระลูกวัดบางเนียงอีก 4 รูป ถูกนิมนต์ให้มาสวดศพโยมพ่อของพระใจยุทธ พระใจยุทธบวชและจำวัดราษฎร์นิรมิตหรือวัดบางม่วง โดยมีโปรแกรมบวชเพียง 20 วัน เพราะต้องกลับไปศึกษาต่อเทอมสุดท้าย ที่วิทยาลัยประมงแถบจังหวัดสงขลา แต่พอเวลาผ่านไปไม่กี่วัน ได้เกิดคลื่นยักษ์ซัดเข้าทำลายหมู่บ้านน้ำเค็มที่พ่อเขาประกอบอาชีพประมงอยุ่ แม่คว้ามือน้องชายกับน้องสาววิ่งหนีขึ้นรถสองแถวได้ทันขณะที่พ่อเดินไปทำธุระ
ที่แพปลาพอดี ชะตากรรมของพ่อจึงหนีไม่พ้นไปจากความตาย!!



หลังจากเกิดเหตุไม่กี่วัน ศพจำนวนมากถูกเก็บลำเลียงมาไว้ที่วัดย่านยาว และอีกจำนวนหนึ่งไว้ที่วัดบางม่วง พระใจยุทธทนกับกลิ่นเหม็นไม่ไหวจึงขอย้ายมาจำวัดที่วัดบางเนียง ซึ่งหลวงลุงนนท์เจ้าอาวาส ญาติห่างๆ ของแม่จำวัดอยู่ที่นี่
ผม(ผู้เขียน) ไป-มา วัดบางเนียงบ่อยเลยได้รู้ความเป็นมาของพระใจยุทธ
ท่านเล่าให้ผมฟังว่า ศพของพ่อ กว่าจะได้พบก็หากันอยู่หลายวัน แม่และญาติๆ
ช่วยกันตามหา เขาเองก็เดินทางไปตามหาทั้งที่วัดย่านยาว และวัดบางม่วง ผ่านไป 1 อาทิตย์ก็ยังไม่พบศพ แม่จุดธูปบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่แม่เคารพนับถือ บอกให้เจอพ่อด้วยเถิด แต่สุดท้าย คนที่เป้นสาเหตุที่ทำให้ได้เจอศพพ่อ คือตัวเขาเอง เจอเพราะพ่อเป็นห่วง มาหาเขาในความฝัน

"ยุทธ นี่พ่อเองนะลูก ตื่นเถอะ ตื่นมาฟังพ่อ พ่อมีเรื่องจะสั่งเสียลูก"

"พ่อ!!"

พระใจยุทธเรียกพ่อเสียงดัง ในความฝันนั้น เขาพยายามจะลุกขึ้นมาจับต้องตัวพ่อที่ยืนอยู่ปลายเท้า แต่ลุกขึ้นไม่ได้ ตัวพ่อเขาเปียกน้ำ ทั้งเสื้อและกางเกงที่สวมอยุ่มีร่องรอยขาดวิ่นอยุ่หลายแห่ง เปื้อนดินโคลนเป็นด่างดวง
บนหัวของพ่อ มีเศษหญ้าหลายชิ้นติดอยู่

"พ่อ พ่อเป็นยังไงครับ พ่อรุ้ไหมว่าแม่และพวกเราเป็นห่วงพ่อมาก ตามหาพ่อมาหลายวันแล้ว นี่พ่อยังไม่ตายใช่ไหมครับ ผมดีใจจริงๆที่พ่อยังไม่ตาย"

"ใครบอก พ่อตายแล้วลูก พ่อไปสบายแล้ว เพื่อนพ่อหลายคน ก็มาเสียชีวิตพร้อมกัน วันนั้นพ่อขึ้นมาจากเรือ กลับมาอาบน้ำเตรียมตัวจะกินข้าวอยู่แล้ว แต่พ่อมานึกได้ว่าพ่อลืมถึงใบจากกับยาเส้นไว้ในเรือ บอกแม่ว่าเดี๋ยวพ่อจะไปธุระที่แพสักครู่ แล้วเดี๋ยวจะกลับมากินข้าว"

"มาที่เรืออีกครั้งก็ต้องตกใจ ที่อยู่ๆเรือที่จอดทอดสมออยุ่ที่ท่า กลับตั้งนิ่งสนิทอยู่บนพื้อนทราย เบื้องหน้าที่น้ำทะเลแห้งลงไปอย่างฉับพลัน
ผู้คนจำนวนมากที่แพปลาส่งเสียงเอะอะมะเทิ่ง ให้มาดูสิ่งแปลกประหลาดที่ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครพบเห็นว่าทำไมอยู่ๆ น้ำทะเลถึงได้แห้งลงไปมากมายถึงเพียงนี้ ไม่ทันที่คนแถบนั้นจะได้พูดอะไรต่อ อยู่ๆ คลื่นลูกหึมาก็ซัดเข้าฝั่ง กวาดผู้คนแถวแพปลาหายไปในพริบตา รวมทั้งพ่อด้วย

แม่กับน้องทั้งสองปลอดภัย พ่อดีใจ ส่วนพ่อ ช่างมันเถอะลูก พ่อมีความภูมิใจอีกอย่างคือ พ่อได้จัดงานบวชให้ลูก ได้เห็นชายผ้าเหลืองของลูกก่อนที่พ่อจะตาย แค่นี้พ่อก็เป็นสุขแล้ว บ้านที่น้ำเค้มของเราพังหมดใช่ไหมลูก ช่างมันเถอะ พังก็สร้างใหม่ได้ ตอนนี้แม่กับน้องก็กลับไปอยุ่บ้านเดิมที่บ้านบางสักก่อน"
"แล้วพ่อ ตอนนี้พ่ออยู่ไหนล่ะครับ"

พระใจยุทธถามพ่อเสียงสั่นเครือ น้ำตาคลอเมื่อเห็นสภาพของพ่อในความฝันนั้น

"ลูกจำป่าสาคูชายคลองที่หาดแหลมป้อมที่พ่อเคยพาลูกไปตกปูสมัยลูกเป็นเด็ก

ลูกจำได้ไหม พ่ออยุ่ที่นั่นแหละ คลื่นพาพ่อออกมาไกลมากถึงที่นั่น ศพพ่อติดอยู่ที่ซอกต้นสาคู

เรือลำใหม่ของพ่อก็ถูกน้ำพัดมาเสียบในป่าสาคูไม่ห่างจากศพของพ่อมากนัก ยังดีที่เรือพ่อไม่เสียหายมากนัก ลูกไปบอกน้าเกรียง น้องชายของแม่ให้พาคนไปกู้เรือออกมานะ เรือยังใช้การได้ดีอยู่ ส่วนเครื่องเรือบางอย่างที่พ่อเพิ่งซื้อมาใหม่ พร้อมกับเครื่องมือหาปลาในถุงปุ๋ยน้ำได้ซัดไปกองอยู่ใต้ถุนข้างขุมเหมืองบ้าน

ป้าแล่ม บอกแม่ บอกน้าเกรียงให้ไปงมขึ้นมานะลูก

แต่...อาจจะไม่ต้องงมก็ได้ เพราะอีกไม่กี่วันทางการเขาคงส่งเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออก เพราะภายใต้ขุมเหมืองนั่น ยังมีชาวน้ำเค็มเพื่อนพ่อติดอยู่ก้นขุมอีกมากมาย สึกจากพระแล้ว กลับไปตั้งใจเรียนนะลูก เพราะเป็นเทอมสุดท้ายแล้ว แล้วก็อย่าทิ้งแม่ทิ้งน้อง ช่วยส่งเสียน้องแทนพ่อด้วย ส่วนลูกถ้าเรียนจบ พ่ออยากให้กลับทำอาชีพประมงอย่างพ่อ ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมา กลับมาพัฒนาปรับปรุงวิชาชีพเดิมที่พ่อทำอยู่อาจจะไม่ต้องทำเอง มาเป็นพ่อค้าคนกลาง เป็นนักวางแผน ตาที่ลูกศึกษามา อย่างไรเสีย ก็มาสืบทอดกิจการของพ่อ ดีกว่าไปเป็นลูกจ้างเขานะลูก" พ่อกำชับกำชาอีกครั้ง

"ครับพ่อ ผมจะทำตามที่พ่อสั่ง พ่อหลับให้สบายเถิด อย่าได้ห่วงอะไรอีกเลย"
"ถ้างั้น พ่อก็ขอลา พ่อไปละนะ"

"แล้วร่างของพ่อผมก็ค่อยๆ จางหายไป พร้อมกับที่ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความฝัน"

พระใจยุทธสรุปความฝันให้ผมฟังก่อนจะพูดต่อว่า

"วันรุ่งขึ้น หลังจากฉันเช้าเสร็จ ผมก็ให้คนขับรถของวัดขับรถมาส่งผมที่บ้านโยมแม่ที่บ้านบางสัก โยมแม่ที่บ้านบางสักโดยแม่แต่งตัวเรียบร้อยเตรียมตัวจะไปตามหาโยมพ่อ กับเพื่อนบ้านอีกหลายคนที่จะไปติดตามหาญาติพี่น้องเขาด้วย ผมเล่าความฝันให้โยมแม่ฟัง โยมแม่รีบโทรศัพท์ไปหาน้าเกรียงที่บ้านในตลาดย่านยาวทันที น้าเกรียงกับภรรยาและลูกๆ รีบขับรถมาสมทบโดยนัดพบกันที่สะพานปลา บ้านน้ำเค็ม ซึ่งขณะนั้นอะไรๆ ยังไม่ลงตัว อยุ่ในสภาพยับเยิน มองไปทางไหนก้มีแต่ซากปรักหักพังของบ้านเรือน เศษซากเรือ ซากรถ ต้นไม้หักโค่นระเกะระกะ ผมถูกนิมนต์ให้ไปอยู่ที่บ้านญาติของโยมแม่คนหนึ่ง ซึ่งสภาพบ้านไม่เสียหายมากนัก เพราะอยู่ห่างจากฝั่งออกมาหลายร้อยเมตร ขณะที่แม่กับน้องเอาแต่ร้องไห้ จะติดตามน้าเกรียงและเพื่อนบ้านอีกหลายคนออกไปหาศพพ่อตามความฝัน

ของผมด้วย แต่ญาติหลายคนพากันคัดค้านช่วยกันดึงแขนแม่ไว้ กลัวว่าถ้าไปสภาพศพของพ่อในตอนนั้นแล้วแม่จะทำใจไม่ได้ ส่วนผมอยากไปด้วยใจจะขาด แต่เพื่อนฝูงนับ 10 คนไม่เห็นด้วยบอกให้ผมอยู่เป็นเพื่อนแม่ ผมบอกเล่ารายละเอียดกับน้าเกรียงว่าศพของพ่อติดอยู่ตรงนั้นนะ เรือของพ่อก็อยู่แถวๆนั้น น้าเกรียงบอกไม่ต้องเป็นห่วง เพราะแถวนั้นหลับตาน้าเกรียงยังเดินไปถึงเลย และสุดท้ายครอบครัวของเราก็ได้ศพพ่อมาบำเพ็ญกุศลจริงๆ ตามที่ฝัน เรือของพ่อก็พบไม่ไกลจากร่างไร้ลมหายใจของพ่อ เครื่องเรือที่เพิ่งซื้อมา และเครื่องมือหาปลาของพ่อ ก็ค้นพบใต้ถุนบ้านป้าแล่มจริงๆ

เสร็จจากปลงศพพ่อ พระใจยุทธตัดสินใจครองผ้าเหลืองต่อจนครบ 1 เดือน หลังจากนั้นก็ลาสิกขาออกมาวางแผนการทำงานกับน้าเกรียงน้องของแม่ เรือลำเก่าอีกลำที่พังไปก็ได้รับการชดใช้จากหลายๆหน่วยงานที่ร่วมใจกัน
มาช่วยเหลือต่อเรือ และสร้างบ้านพักถาวรให้ ปัจจุบันนี้ อดีตพระใจยุทธ เรียนจบชั้นปริญญาตรี กลับมาแต่งงาน มีครอบครัว และมีลูกชายที่น่ารัก 1 คน และเริ่มมีกิจการเป็นของตัวเอง เปิดร้านขายอุปกรณ์ เครื่องมือทำการประมงแทบทุกชนิดในบ้านน้ำเค็ม ราศีเถ้าแก่เริ่มจับ

เขาเล่าให้ผมฟังว่า ตอนที่เขาแต่งงาน คืนนั้น พ่อมาหาเขาอีกครั้ง ในความฝัน พ่ออวยพรให้เขากับคู่สมรสอยู่เย็นเป็นสุข พ่อแต่งตัวด้วยชุดไทยหล่อมาก
"พ่อหมดห่วงแล้ว ดีใจที่ลูกประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและไม่ลืมที่พ่อสั่งไว้คือดูแลแม่ และส่งเสียน้องๆเรียน ลูกเป็นคนดี สะไภ้ของพ่อ พ่อดูแล้วเธอเป็นคนดีแน่นอน อยู่กันดีๆนะลูก มีอะไรรอมชอมกัน อย่าทะเลาะกัน ผัวเมียกันก็เหมือนลิ้นกับฟัน ย่อมมีกระทบกระทั่งกันบ้าง ถ้าเขาร้อนมา เราก็เย็นไป ต้องอดทน เหมือนพ่อกับแม่มีลูกตั้งสามคน

พ่อจำได้ว่าตั้งแต่อยู่กินกันมาไม่เคยทะเลาะกับแม่สักครั้ง พ่อลานะลูก แล้วถ้าเกิดภายภาคหน้า ลูกเห็นอะไรแปลกๆก็อย่าตกใจไปละ" พ่อของใขยุทธทิ้งท้ายด้วยวาจาแปลกๆก่อนจากไป เมื่อไม่นานนี้ผมไปเที่ยวบ้านน้ำเค็มอีกครั้ง เข้าไปเยี่ยมเขา เขาอุ้มลูกชายอายุย่าง 2 ขวบ ในวัยน่ารัก กับชี้ให้ผมดูรูปพ่อของเขาที่ไม่ใส่เสื้อยืนถ่ายกับเรือคู่ชีพที่แพปลาบ้านน้ำเค็ม เปลือยร่างท่อนบนเห็นกล้ามเป็นมัดๆ

"พี่เทพดูที่ราวนมขวาของลูกชายผมสิ แล้วก็ดูที่ราวนมขวารูปของพ่อผมด้วย พี่เห็นอะไรไหม"

"ปานแดงอยู่ตำแหน่งเดียวกันเลย"
ผมเอ่ยสั้นๆ มือลูบไล้ปานแดงที่ราวนมขวาลูกชายเขา ขณะที่สายตาเพ่งมองรูปถ่ายบนฝาผนัง แล้วผมก็คิดอะไรไม่ออกอีก พูดอะไรก็ไม่ออก หรือว่า...
งั้นก็อย่าคิดเลย ให้คุณผู้อ่านช่วยผมคิดต่อด้วยเถอะ

3 ความคิดเห็น:

panwat กล่าวว่า...

เขาว่า ลอกเขามาทั้งดุ้นนะ

panwat กล่าวว่า...

นี่มันบทความของ ปลายแป้นพิมพ์เขานะ ไอ้หนู

Unknown กล่าวว่า...

เอาผลงานคนอื่นมาแอบอ้างว่าเป็นของตัวเอง มันไม่ดีเลยนะครับ น่าอายยิ่งนัก